รู้ก่อนเลือก! ชนิดของไม้แบบที่เหมาะสมกับการใช้งานและการรักษา

ในงานก่อสร้างนั้น ‘ไม้แบบ’ นับว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากไม้แบบคือโครงสร้างชั่วคราวที่ใช้เพื่อเป็นแม่แบบในงานหล่อคอนกรีตสำหรับโครงสร้างและส่วนประกอบต่างของอาคาร ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวรับน้ำหนักของคอนกรีต พร้อมสร้างขอบเขตการเทให้เป็นไปตามแปลน และได้ผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบที่วางแผนเอาไว้ ดังนั้นไม้แบบจึงต้องแข็งแรงพอเพื่อสร้างกรอบในการเทคอนกรีตได้อย่างลงตัว

ชนิดของไม้แบบที่เหมาะสมกับการใช้งาน
ชนิดของไม้แบบที่เหมาะสมกับการใช้งาน

การเลือกใช้ไม้แบบจึงต้องใช้ความละเอียด ซึ่งไม้แบบสำหรับงานก่อสร้างก็มีมากมายหลายชนิด การเลือกใช้ไม้แบบแต่ละประเภทก็จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทของการใช้งาน ถ้าอยากรู้ว่าไม้ประเภทไหนเหมาะกับการทำอะไร ก็สามารถมาดูกันได้ที่นี่เลย

  • ไม้ยูคาลิปตัส

เป็นไม้ที่มีเนื้อแข็งแรงทนทาน จึงนิยมนำมาใช้ในการก่อสร้างเพื่อการเทพื้น ค้ำยันเสาเวลาเทพื้น รองปั้นจั่น ตอกเสา ทำเพิง ทำป้ายโฆษณา รวมถึงสามารถใช้ในการสร้างบ้านพักอาศัยชั่วคราวสำหรับคนงาน

  • ไม้เบญจพรรณ

เป็นไม้ผสมทั้งเนื้อแข็งและเนื้ออ่อน เป็นไม้ที่นิยมกันมากที่สุดที่มีความคงทนปานกลาง โดยการนำมาใช้งานทำแบบเสาเพื่อทำโครงสำหรับยึดแบบ เทพื้น ทำนั่งร้าน ทำแปลนหลังคา

  • ไม้ยางมาเลย์

เป็นไม้เนื้อแข็ง ตีตะปูง่าย มีราคาไม่แพง จึงเหมาะสำหรับงานก่อสร้างเพราะมีลักษณะเฉพาะตัวที่เหมาะสม เหมาะสำหรับทำแบบ ไม้หน้าสาม ไม้ฝ้า ไม้โครงต่าง ๆ โดยไม้ยางมาเลย์จะใช้งานได้ดีกว่าไม้เบญจพรรณและมีการนำเข้าส่งออกเป็นจำนวนมากในประเทศไทย 

  • ไม้กระบาก

เนื่องจากคุณสมบัติที่มีคุณภาพดี ไม่บิดงอ และสามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง จึงเป็นไม้ที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะทำงานง่าย สามารถนำมาตีตะปู ใช้ทำแบบหล่อคอนกรีตได้ดี

  • ไม้เต็ง

เป็นไม้ที่มีสีน้ำตาลแก่แกมแดง เนื้อหยาบ มีความทนทาน เหมาะสำหรับทำหมอนรองรางรถไฟ ทำโครงสร้างอาคาร เหมาะกับงานตกแต่งภายในและภายนอก

  • ไม้ไผ่

ไม้ไผ่ในงานก่อสร้างมักจะนำมาใช้สำหรับทำนั่งร้าน โดยจะมีไผ่ตันซึ่งมีความแข็งแรง และไผ่นวลซึ่งมีลักษณะกลวงและใช้ร่วมสำหรับไม้ขันสน็อกและเชือกไนล่อนหรือเชือกฟาง

การเก็บรักษา ต่ออายุการใช้งาน การรักษาแบบก่อสร้างจากไม้ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลายคนเข้าใจ สิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจรายละเอียด  โดยวิธีง่าย ๆ คือการเคลียร์สิ่งแปลกปลอมออกทุกครั้งหลักการใช้ อันได้แก่ ตะปูและเศษปูน หลังจากนั้นจึงค่อยล้างทำความสะอาด และนำไปผึ่งแดดให้แห้งจนสนิท โดยสถานที่สำหรับการจัดเก็บที่เหมาะสมควรจะเป็นที่ร่มไม่อับชื้น เป็นสถานที่ที่สามารถป้องกันการเปียกฝนและแสงแดดที่ตกกระทบได้เป็นอย่างดี