สำหรับการแก้ไขปัญหารูปหน้าที่ไม่สมส่วน สำหรับคนไม่อยากอยากผ่าตัด หรือพักฟื้นนานเกินไป การฉีดฟิลเลอร์ เป็นอีกเทคนิคยอดนิยมที่ได้รับการยอมรับในกลุ่มสาว ๆ เป็นอย่างมาก ด้วยใช้เวลาทำไม่นาน แต่ได้เห็นผลลัพธ์ที่สวย และชัดเจน แถมไม่ต้องพักฟื้นนานอีกด้วย
ซึ่งหลายคนที่ยังลังเลใจ กังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงก่อนการฉีดและหลังฉีดฟิลเลอร์ วันนี้จะมาแนะนำเทคนิคการดูแลตัวเองหลังจากฉีด ฟิลเลอร์ ในแต่ละส่วนมาฝากทุกคนกัน
รู้จักเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์คืออะไร?
สำหรับคนที่มีปัญหาผิวหน้าที่มีความหย่อนคล้อย มีร่องลึก หรือมีริ้วรอยต่าง ๆ ที่ไม่อยากทำการศัลยกรรมผ่าตัดเพื่อยกกระชับหน้า ไม่อยากเจ็บตัวเยอะ หรือต้องพักฟื้นาน การฉีดฟิลเลอร์เป็นอีกเทคนิคที่คุณไม่ควรพลาด ซึ่งเป็นการฉีดสารฟิลเลอร์ (Filler) หรือสาร Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารที่ได้รับการรองทางการแพทย์ว่าปลอดภัย และสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยจะมีคุณสมบัติช่วยเติมเต็มตามจุดต่าง ๆ ที่ได้ฉีดเข้าไป ไม่ว่าเป็นร่องแก้ม หางตา กรอบหน้า หน้าผาก หรือปาก เป็นต้น รวมถึงมีคุณสมบัติช่วยปรับสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้น ริ้วรอยและความหมองคล้ำดูจางลง ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาอย่างเห็นได้ชัดนั่นเอง
รู้จักประเภทของฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว : เป็นฟิลเลอร์ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ แต่จะมีประสิทธิภาพอยู่ได้นาน 6 เดือนจนถึง 2 ปี ซึ่งได้แก่ ฟิลเลอร์กลุ่มไฮยารูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid)
- ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร : เป็นฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพอยู่ได้นาน 2-5 ปี ซึ่งได้แก่ ฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของแคลเซียม ไฮดรอกซิลอะพาไทต์
- ฟิลเลอร์แบบถาวร : เป็นฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพอยู่แบบถาวร ซึ่งจะคงค้างอยู่ในชั้นผิวไม่สลายตามธรรมชาติ
การเตรียมตัวหลังเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
- ปาก : ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณจุดที่ฉีด ห้ามดีงหรือลอกริมฝีปาก งดการทาปากเพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูปได้ รวมถึงงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
- ใต้ตา : หลีกลี่ยงการขยี้ตา แกะ หรือเกาบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบไป รวมถึงงดแต่งหน้า หรือทาครีมบริเวณนั้น แนะนำให้ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม ช้ำ
- คาง : หลีกเลี่ยงการนวด กด เเพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูป รวมถึงไม่ควรนอนคว่ำหรือทำอะไรที่กระทบกับคางได้
- หน้าผาก : หลีกเลี่ยงการนวด กด ทับ รวมถึงการขยับหน้าบ่อย ๆ หรือรุ่นแรง เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูปได้