คลังสินค้าออนไลน์คืออะไร ช่วยดูแลธุรกิจได้อย่างไรบ้าง?

คลังสินค้าออนไลน์นี้คืออะไรกันแน่ สามารถช่วยดูแลธุรกิจในแง่มุมไหนได้บ้าง หากใครสงสัยเช่นเดียวกันนี้อยู่ มาหาคำตอบไปพร้อมกันที่นี่ !

ในสมัยก่อน เมื่อต้องการขายสินค้าผ่านทางหน้าร้าน เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่จึงเลือกสั่งของมาสต๊อกไว้ยังคลังสินค้า ซึ่งมาพร้อมกับต้นทุนทั้งในเรื่องของการขนส่ง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้า ค่าเช่าที่ ไปจนถึงค่าโกดังสำหรับสต๊อกสินค้า แต่สำหรับในสมัยนี้ที่ธุรกิจได้ย้ายฐานไปสู่โลกออนไลน์ คลังสินค้าออนไลน์จึงกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนการสต๊อกสินค้า ทั้งยังช่วยเจ้าของธุรกิจดำเนินธุรกิจได้อย่างสะดวกในหลากหลายแง่มุมอีกด้วย 

แล้วคลังสินค้าออนไลน์นี้คืออะไรกันแน่ สามารถช่วยดูแลธุรกิจในแง่มุมไหนได้บ้าง หากใครสงสัยเช่นเดียวกันนี้อยู่ มาหาคำตอบไปพร้อมกันที่นี่ !

A person typing on a computer

Description automatically generated with low confidence

คลังสินค้าออนไลน์คืออะไร?

เมื่อพูดถึงการขายสินค้า เจ้าของธุรกิจหลายคนอาจนึกถึงการซื้อของมาตุนไว้ยังสถานที่หนึ่งเพื่อรอการจัดส่ง แต่สำหรับการทำธุรกิจออนไลน์ ทุกคนสามารถใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ได้ ซึ่งคลังสินค้าดังกล่าวนี้จะเป็นตัวช่วยเช็กจำนวนสินค้าในสต๊อก โดยที่เจ้าของธุรกิจ รวมไปถึงพนักงานไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งนับจำนวน ตรวจเช็ก รวมไปถึงจัดและแพ็กสินค้าเหมือนสมัยก่อน ซึ่งถือเป็นการลดแรงและข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ลงไปได้ 

สำหรับธุรกิจออนไลน์ที่ต้องซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม การมีคลังสินค้าออนไลน์สามารถช่วยเชื่อมต่อเข้ากับ Marketplace ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ทำให้ลูกค้าสามารถเช็กสต๊อกสินค้าเองได้ โดยตัวระบบจะจัดลำดับการเช็กสินค้า จากนั้นจึงเก็บ แพ็ก และจัดส่งให้กับลูกค้าได้ โดยเจ้าของธุรกิจไม่จำเป็นต้องเสียแรงเหมือนเดิมอีกต่อไป

ข้อดี

การมีคลังสินค้าออนไลน์สามารถช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยที่ลูกค้าสามารถเช็กสต๊อกสินค้า พร้อมทั้งตัดสินใจในการซื้อได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ ตัวคลังสินค้าบนระบบออนไลน์ยังช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการนับสต๊อกผิด ไปจนถึงการตรวจเช็กคุณภาพสินค้า ทำให้ธุรกิจสามารถสร้างฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายถึงการสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ข้อควรระวัง

แม้จะมาพร้อมกับข้อดีมากมาย แต่ระบบคลังสินค้าออนไลน์ก็มาพร้อมกับข้อควรระวังเช่นกัน โดยหลัก ๆ แล้ว ระบบคลังสินค้าประเภทนี้จะมีการคิดค่าใช้จ่ายตามจำนวนพื้นที่ ซึ่งคำนวณจากสินค้าและคำสั่งซื้อที่เจ้าของธุรกิจได้ตั้งค่าเอาไว้ตามเงื่อนไข รวมไปถึงยังมีการพิจารณารายละเอียดจาก Marketplace ต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการคิดราคาตามฟังก์ชันพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการบริหารต้นทุนในส่วนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมเช็กรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่าย เลือกใช้ฟังก์ชันที่เหมาะสม และยังควรวางแผนทุกรายละเอียดให้รอบคอบด้วย

เพียงเท่านี้ ทุกคนก็รู้จักรายละเอียดต่าง ๆ ของระบบคลังสินค้าออนไลน์กันมากขึ้นแล้ว หากใครสนใจใช้บริการระบบคลังสินค้าประเภทนี้ อย่าลืมนำรายละเอียดที่นำมาฝากในวันนี้ไปพิจารณาร่วมด้วยนะ