วิธีป้องกันข้อมูลบัตรเครดิตเบื้องต้น

บัตรเครดิตนับว่าเป็นบัตรที่หลายๆคนนั้นกำลังใช้งานอยู่ และสุ่มเสี่ยงต่อการถูกข้อมูลได้ง่ายมากที่สุด เพราะเพียงข้อมูลบนบัตรเท่านั้นก็สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้แล้ว เพราะฉะนั้นเรามาดูวิธีการที่จะป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับบัตรของเราได้จากบทความนี้

วันก่อนนี้ได้มีการคุยกันในกลุ่มไลน์ของเพื่อนๆ ปกติก็จะมีการสนทนาทั้งเรื่องที่มีสาระและไร้สาระ แต่ส่วนใหญ่ก็จะออกไปทางไร้สาระตามประสากลุ่มเพื่อน และมีการนำข่าวมาแชร์ เป็นเรื่องที่หลายๆคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว คงมีแต่ในข่าว มันคงไม่เกิดกับตัวเราหรอก แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจ เพราะถ้าเราไม่ระวังหรือป้องกันตัวเอาไว้ ถ้าเกิดเหตุการณ์ขึ้นกับตัวเราจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ

เรื่องราวที่แชร์กันทั้งในข่าวและจากคนใกล้ตัวที่ผมจะนำมาเล่าและแชร์ประสบการณ์ในวันนี้คือเรื่องเกี่ยวกับบัตรเครดิตครับท่านผู้ชม มีข่าวออกมาเรื่อยๆว่ามีการขโมยข้อมูลบัตรเครดิตเกิดขึ้น นำไปรูดเงินซะเกลี้ยงเลย ลองไปดูพาดหัวข่าวนี้

บัตรเครดิต โดยขโมย
บัตรเครดิต โดยขโมย
ข่าวบัตรเครดิตโดยรูดผ่าน iTune

เรามาดูกันว่า เราจะมีวิธีป้องกันตัวเราเอง ไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้กับเรา หรือ เกิดกับคนใกล้ตัวของเราได้อย่างไร

ปกปิดเลข CVV หลังบัตรของเรา อย่าให้ใครเห็น

เนื่องจากหมายเลข CVV (Card Verification Value) คือหมายเลขที่ใช้ยืนยันบัตร ถ้าใครได้ข้อมูลตัวเลขทั้งหมดที่อยู่บนบัตรไปแล้วละก็ ก็เหมือนกับถือบัตรตัวจริงไปนั่นแหละ เคยมีกรณีที่น้องสาวของผมไปเล่นที่บ้านเพื่อน แล้วเผลอวางกระเป๋าตังค์เอาไว้ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าอยู่ในบ้าน ปรากฏว่าหลังจากที่กลับมาจากบ้านเพื่อนไม่กี่วัน เจอว่าเงินในบัญชีหายไปหมดเกลี้ยง สอบถามไปทางธนาคารก็บอกว่ามีการทำธุรกรรมผ่านบัตรตามปกติ โชคดีที่เป็นบัตรเดบิต คือ ตัดยอดเงินได้แค่เท่ายอดเงินสดที่มีในบัญชีเท่านั้น และในบัญชีก็มีเงินไม่กี่พันบาท ลองคิดดูถ้าหากว่าเป็นบัตรเครดิตที่มีวงเงินหลายหมื่น หรือหลักแสนจะเสียขายขนาดไหน
สืบไปสืบมาปรากฏว่าเป็นเด็กติดเกมส์แถวนั้นที่ขโมยข้อมูลบัตรไป โดยอาศัยช่วงที่เผลอ ถ่ายรูปหน้าบัตร หลังบัตร แล้วเอาไปรูดเติมเกมส์จนเงินในบัตรหมด

ปิดหมายเลข CVV
ปิดหมายเลข CVV

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ผมยกมาให้ดู เพราะฉะนั้น วิธีแรกที่เราจะทำเป็นเรื่องง่ายๆ คือการปกปิดหมายเลข CVV เอาไว้ ด้วยการหาอะไรมาแปะไว้เลย ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด แต่ผมว่ามันก็ช่วยป้องกันได้ระดับนึง เวลาที่เราไปใช้บริการกับร้านต่างๆ อย่างน้อยมันก็ช่วยป้องกันได้ เช่น เวลาไปเติมน้ำมัน ช่วงเวลาไม่กี่วินาที ที่บัตรคลาดสายตาเราไป เราไม่รู้หรอกว่าพนักงงานนั้นเชื่อถือได้แค่ไหน ช่วงเวลาที่เขาทำงานอยู่ที่นั่นอาจจะยังไม่เกิดเรื่อง เกิดแบบว่าเขารวบรวมข้อมูลไปแล้วเอาไปใช้ต่อทีหลังจะทำยังไง ป้องกันไว้ดีกว่าแก้แน่นอน

เปิดแจ้งเตือนการใช้งานบนมือถือ

บัตรเครดิตแทบจะทุกธนาคาร ณ ตอนนี้ รองรับการแจ้งเตือนผ่านทางแอพพลิเคชันบนมือถือ เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้เราทำการสมัครแอพฯ และตั้งค่าการแจ้งเตือนการทำธุรกรรมทุกอย่างทางมือถือ เพราะถ้ามีธุรกรรมหรือการใช้งานบัตรที่น่าสงสัยเราจะได้ป้องกันได้ทันท่วงที

ใช้บัตรกับร้านที่น่าเชื่อถือเท่านั้น

ก่อนจะใช้บัตรของเรากับร้านไหนก็ต้องดูความน่าเชื่อถือก่อนเป็นอันดับแรกๆ อย่าปล่อยให้บัตรของเราคลาดสายตา ถ้าจำเป็นก็ทำการปิดบังเลข CVV อย่างที่ได้แนะนำไว้แล้วในตอนต้นครับ

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายๆวิธี แต่ผมก็ยกมาแค่วิธีที่ทำได้ง่ายๆก่อนก็แล้วกัน ถ้าหากเราต้องการคำแนะนำ สามารถติดต่อธนาคารที่เป็นผู้ออกบัตรให้เราได้ เขาจะมีวิธีและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับเรามากขึ้นครับ

สุดท้ายก็ขอให้เราใช้บัตรเครดิตอย่างถูกวิธี ไม่ใช้บัตรเกินตัว เพราะถ้าเกิดดอกเบี้ยมาเมื่อไหร่ก็เหมือนถูกขูดเลือดไปไม่ใช่น้อย เท่าที่ผมดูดอกเบี้ยนี่ก็แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน