แจกเคล็ดลับประหยัดค่าส่งของจากไทยไปญี่ปุ่น

มาเจาะลึกวิธีประหยัดค่าส่งของจากไทยไปญี่ปุ่น พร้อมเคล็ดลับที่ใช้งานได้จริง ช่วยคุณควบคุมงบประมาณ โดยไม่ลดคุณภาพในการขนส่งกัน

ในยุคที่การค้าขายออนไลน์และการส่งของระหว่างประเทศได้รับความนิยมมากขึ้น การส่งของจากไทยไปญี่ปุ่น ก็กลายเป็นเรื่องปกติของทั้งผู้ขายสินค้าและบุคคลทั่วไปที่มีญาติหรือเพื่อนอยู่ในแดนอาทิตย์อุทัย แต่สิ่งที่หลายคนกังวลไม่น้อยก็คือ “ค่าส่งของจากไทยไปญี่ปุ่น” ที่บางครั้งก็สูงจนกระทบต่อกำไรหรือค่าใช้จ่ายส่วนตัว

บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกวิธีประหยัดค่าส่งของจากไทยไปญี่ปุ่น พร้อมเคล็ดลับที่ใช้งานได้จริง ช่วยคุณควบคุมงบประมาณ โดยไม่ลดคุณภาพในการขนส่ง

A person writing on a clipboardAI-generated content may be incorrect.

ทำไมค่าส่งของไปญี่ปุ่นถึงแพง ?

ก่อนจะไปถึงเทคนิคการประหยัดค่าใช้จ่าย ลองมาดูสาเหตุที่ทำให้ค่าส่งของไปญี่ปุ่นค่อนข้างสูง

  • ระยะทางไกล : ไทยกับญี่ปุ่นอยู่กันคนละภูมิภาค จึงต้องใช้บริการขนส่งระหว่างประเทศที่ใช้เครื่องบินหรือเรือ

  • น้ำหนักและขนาดพัสดุ : ยิ่งกล่องใหญ่หรือของหนัก ค่าขนส่งก็ยิ่งสูงขึ้น
  • ความเร่งด่วนของบริการ : บริการด่วนพิเศษ (Express) มักมีราคาสูงกว่าบริการแบบประหยัด
  • ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม : เช่น ค่าประกันสินค้า ภาษีนำเข้า หรือค่าบริการเสริมจากผู้ให้บริการขนส่ง

แม้เหตุผลเหล่านี้จะฟังดูหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ยังมีวิธีประหยัดค่าส่งของจากไทยไปญี่ปุ่นได้หากคุณวางแผนให้ดี

เคล็ดลับประหยัดค่าส่งของจากไทยไปญี่ปุ่น

1.เลือกขนส่งที่เหมาะสมกับประเภทพัสดุ

หากของที่คุณส่งไม่ต้องการความเร่งด่วน บริการแบบ Economy หรือ Standard เช่น ePacket หรือ EMS World จากไปรษณีย์ไทย จะช่วยประหยัดไปได้มาก ส่วนของที่มีมูลค่าสูงหรือจำเป็นต้องถึงเร็ว ค่อยพิจารณาใช้ DHL หรือ FedEx

2.เปรียบเทียบราคาหลายเจ้าก่อนตัดสินใจ

เข้าเว็บไซต์ของผู้ให้บริการขนส่ง เช่น ไปรษณีย์ไทย, DHL, SCG Express หรือใช้เว็บไซต์ aggregator ที่เปรียบเทียบราคาหลายเจ้าในหน้าเดียวจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมและเลือกสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดได้ทันที

3.ใช้กล่องหรือบรรจุภัณฑ์ที่พอดี ไม่ใหญ่เกินความจำเป็น

ค่าส่งของจากไทยไปญี่ปุ่นมักพิจารณาจาก “น้ำหนักปริมาตร” (Volumetric Weight) ด้วย ซึ่งหมายความว่ากล่องที่เบาแต่ใหญ่เกินไปก็อาจเสียค่าส่งสูงกว่ากล่องที่เล็กกว่าแต่หนักกว่า ดังนั้น ควรเลือกกล่องขนาดเหมาะสมกับของที่ใส่

4.ส่งแบบรวมพัสดุ (Consolidated Shipping)

ถ้าคุณส่งของหลายชิ้นให้คนเดียวกัน ลองรวมส่งในครั้งเดียว แทนที่จะส่งหลายครั้ง ค่าใช้จ่ายรวมจะถูกกว่ามาก และบางตัวแทนส่งของยังมีโปรโมชั่นลดเพิ่มเมื่อส่งหลายชิ้นพร้อมกันอีกด้วย

5.ใช้บริการผ่าน Shipping Agent ที่เชื่อถือได้

ตัวแทนรับส่งของหลายเจ้ามีช่องทางเฉพาะที่ช่วยให้ค่าขนส่งถูกกว่าการส่งตรงเอง เช่น ส่งผ่านระบบ Freight Forwarder หรือใช้โควตาขนส่งของกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ซึ่งสามารถลดต้นทุนได้หลายร้อยบาทต่อพัสดุ

แม้ว่าค่าส่งของจากไทยไปญี่ปุ่นจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การเลือกขนส่งที่เหมาะสม บรรจุพัสดุอย่างชาญฉลาด และใช้กลยุทธ์เปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจ ล้วนเป็นวิธีที่ช่วยคุณประหยัดได้จริง โดยไม่ต้องลดคุณภาพการจัดส่ง

หากคุณเป็นผู้ขายออนไลน์หรือส่งของเป็นประจำ การรู้เทคนิคเหล่านี้ไม่เพียงช่วยประหยัดเงิน แต่ยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้ผู้รับอีกด้วย เพราะของถึงไว ปลอดภัย และค่าส่งไม่บานปลายอย่างที่หลายคนกังวล